ปลูกสุข อยู่เย็น บนโลกละมุนของ ป้าแอ๊ด

0
379
kinyupen
ผู้หญิงคนนี้ชื่อ “ป้าแอ๊ด”
ป้าแอ๊ดไม่ได้เป็นคนที่มีชื่อเสียง ไม่ได้โด่งดังมากมายจนใครๆ ต้องรู้จัก ป้าเป็นเพียงอดีตครูที่คอยแนะนำ แนะแนวให้เด็กๆ ในโรงเรียนต่างจังหวัดที่ป้าสังกัดให้ใช้ชีวิตได้อย่างถูกที่ถูกทาง

 

ป้าตกลงกับลุงคู่ชีวิต ไปหาที่ดินพอดีตัวเป็นที่ปักหลักในบั้นปลายชีวิต ที่ที่ป้าและลุงเลือกเป็นไร่อ้อยเสื่อมสภาพ ดินแห้งแข็งราวกับซีเมนต์ ใน ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง แหล่งผลิตผ้าขาวม้าร้อยสี ที่ตอนนั้นยังไม่ได้ขึ้นชั้นเป็นของดีเมืองกาญจน์

 

สองลุงป้า เพียรฟื้นชีวิตดินทีละน้อย และค่อยๆหมั่นลงมือปลูกต้นไม้ทีละต้นๆ หลายปีผ่านไปมหัศจรรย์จากความเพียรมีจริง ผืนดินแห้งแล้งพลิกฟื้น กลายเป็นความชุ่มชื่น ต้นไม้ใหญ่น้อยเติบโตอย่างมีความสุข
ป้าและลุงแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งปลูกบ้านหลังย่อมใต้ไม้ใหญ่ โดยมีลุงทำหน้าที่เป็นสถาปนึก ขณะที่อีกส่วนทำเป็นสวนผักปลูกมือเอาไว้กินเอง แบบที่คนปัจจุบันเรียกว่า ออร์แกนิก
ชีวิตเรียบๆง่ายๆ แต่ทรงเสน่ห์จนมีผู้คนสนใจแวะเวียนไปเสพความสงบ เงียบ เรียบง่ายอยู่เสมอ กลายเป็นที่รู้จักในชื่อของ “บ้านกลางทุ่ง” ออร์แกนิก โฮมสเตย์

 

เย็นทั้งกาย เย็นทั้งใจ ทำให้คนแวะเวียนไปมากเข้า จนต้องขยับขยายเพิ่มเป็นบ้านหลังน้อยชั้นเดียว 3 ห้อง กับเรือนสองขั้นใต้ถุนโปร่ง ที่เกิดขึ้นด้วยฝีมือสถาปนึกคนเดิม ตกแต่งภายในด้วยฝีมืออินทีเรียที่ชื่อ ป้าแอ๊ด และขยายไปอีก 3 ห้องสวยๆ บรรยากาศดีกลางสวนผักปลูกเองในเวลาต่อมา ชื่อชั้น บ้านกลางทุ่ง ได้ติดอันดับต้นๆ ของโฮมสเตย์ที่ต้องไปเยือน

 

วันนี้แม้ป้าแอ๊ดจะไม่มีลุงอยู่เป็นเพื่อนชีวิตอีกต่อไป แต่ป้าก็มีผู้คนแวะเวียนไปหาอยู่เสมอ จนผูกพันกลายเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นป้า เป็นญาติที่รักกันแบบไม่มีข้อแม้

 

ป้ายังอ่านหนังสือ เขียนกวีไฮกุ และดำรงความซน ออกไป ตีเทนนิส สำรวจพื้นที่ หาของอร่อยกิน รดน้ำต้นไม้ ปลูกผัก ปลูกป่า กอดต้นไม้ ทำโรงเห็ด รวมไปถึงปลูกมะเขือเทศ ปลูกองุ่นออร์แกนิกส์ฝีมือตัวเองจนได้ผลิตผลที่น่าตื่นเต้น เหลือก็เอาไปแปรรูปทำแยม ทำแห้ง หรือฟรีซแข็งเพิ่มมูลค่า

“ป้าไม่อยากได้อะไร มีเพียงอย่างเดียวที่ขอคือ ขอให้ปลูกต้นไม้กันเถอะ เพราะต้นไม้คือ สิ่งมหัศจรรย์ เป็นมหัศจรรย์ของโลกที่ใครๆ ก็สร้างได้ เรื่องนี้ผ่านการพิสูจน์แล้ว บ้านกลางทุ่งคือ หลักฐาน ป้าแอ๊ดเป็นพยาน”

 

ทีมงานกินอยู่เป็น 360องศาแห่งการใช้ชีวิต

kinyupen