การ “ดมกลิ่นเสื้อผ้าแฟนสาว” ช่วยลดความเครียดของฝ่ายชายได้

0
1110
กินอยู่เป็น_การ-ดมกลิ่นเสื้อผ้าแฟนสาว-ช่วยลดความเครียดของฝ่ายชายได้_web
kinyupen

ผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย พบว่า ผู้ชายที่สูดดมกลิ่นเสื้อผ้าสวมใส่แล้วของแฟนสาว ช่วยลดและผ่อนคลายเครียดได้อย่างไม่น่าเชื่อ

กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต ขอนำเสนอเรื่องราวสุดแปลกที่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ สำหรับคู่รักที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะสามี-ภรรยา หรือยังอยู่ในฐานะแฟนที่กำลังคบหาดูใจกันอยู่ ท่านสุภาพบุรุษหลายคนเคยมีอาการแบบนี้บ้างไหม หลังจากทำงานหรือเรียนหนังสือมาอย่างหนักหน่วงตลอดทั้งวัน กลับถึงบ้านทั้งทีก็ขอให้ได้กอดแฟนสาวแน่น ๆ เพื่อช่วยลดและคลายความเครียด แต่สำหรับคู่รักบางคู่อาจจะไม่ค่อยได้มี Moment นี้สักเท่าไหร่ เนื่องจากคู่รักบางคู่กลับบ้านไม่ตรงเวลา บางคู่ก็อยู่คนสถานที่ คนละแห่ง

แต่รู้หรือไม่ว่า วิธีที่ช่วยลดความเครียดของสุภาพบุรุษได้อีกวิธี นอกเหนือจากการกอดแฟนสาวนั้น ก็คือ การได้สูดดมกลิ่นเสื้อผ้าของแฟนสาวนั่นเอง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าวิธีนี้สามารถลดความเครียดได้จริง เพราะงานวิจัยของมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย ได้ทดสอบคู่รักทั้ง 96 คู่ โดยให้ฝ่ายหญิงอาบน้ำด้วยสบู่สูตรไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และสวมเสื้อยืดสีขาวตัวใหม่เป็นเวลา 24 ชั่วโมง จากนั้นนำตัวผู้เข้าทดสอบฝ่ายชายไปสัมภาษณ์ภายใต้ความกดดัน และให้ทำข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์แบบยาก ๆ เพื่อเพิ่มระดับความเครียดให้สูงขึ้น ก่อนจะส่งเสื้อสีขาว 3 ตัวให้ลองดม ตัวแรกเป็นเสื้อที่ยังไม่มีใครเคยใส่ ต่อมาคือเสื้อตัวที่แฟนตัวเองใส่โดยคนดมไม่รู้มาก่อน และตัวสุดท้ายเป็นเสื้อของคนแปลกหน้า

ผลการวิจัยพบว่า ฝ่ายชายส่วนใหญ่จำกลิ่นของแฟนตัวเองได้เป็นอย่างดี และพอได้ดมกลิ่นที่ติดเสื้อแล้ว ระดับความเครียดของทุกคนค่อย ๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน เมื่อพวกเขาลองไปดมเสื้อของคนไม่รู้จักดูบ้าง กลับทำให้ระดับความเครียดเพิ่มสูงขึ้นทันที

อย่างไรก็ตาม สำหรับสุภาพบุรุษที่จะใช้วิธีนี้เพื่อลดความเครียดสะสม ควรมีการพูดคุยและทำความเข้าใจกับแฟนสาวเสียก่อน และอย่าเผลอไปสูดดมกลิ่นเสื้อผ้าของคนข้างบ้านเด็ดขาด ที่สำคัญควรเลือกเสื้อผ้าตัวที่สะอาด ไม่ควรนำเสื้อผ้าที่ชุ่มเหงื่อมาดมเด็ดขาด เพราะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย อาจส่งผลให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจได้ แต่ทางที่ดีควรหากิจกรรมอื่น ๆ ทำประกอบ เพื่อลดความเครียดจะเข้าท่ากว่า และนี่คือวิถีแห่ง กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต

 

ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก : askmen.com, sciencedaily.com

kinyupen