เช็ค 7 สัญญาณเตือน “หัวใจวาย” ภัยเงียบอันตรายถึงตาย

0
466
kinyupen

“หัวใจวาย” ภัยเงียบที่คร่าชีวิตมนุษย์อย่างเฉียบพลัน เพราะเป็นสาเหตุอันดับต้นของการเสียชีวิต ดังนั้น อย่าลืมตรวจสอบ 7 สัญญาณเตือน “หัวใจวาย” ในร่างกายเรา หากพบว่ามีอาการดังกล่าว ควรรีบพบแพทย์ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

“หัวใจวาย” อีกหนึ่งอาการที่คร่าชีวิตใครหลาย ๆ คน เพราะเป็นสาเหตุอันดับต้นของการเสียชีวิต ซึ่งเกิดจากการที่หลอดเลือดหัวใจอุดตันอย่างเฉียบพลัน และขัดขวางการไหลของเลือดจนทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงหัวใจได้ เมื่อหัวใจขาดเลือด ผลที่ตามมาก็คือกล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลาย เมื่อกล้ามเนื้อหัวใจเริ่มตายไป อาการอาจเป็นอยู่นานกว่า 15 นาที และไม่ทุเลาลงโดยการพัก หรือได้รับยา ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจที่ขาดเลือดอาจจะตายลงได้ภายในไม่กี่นาที และอาจส่งผลให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้

ล่าสุด “หัวใจวาย” เกิดขึ้นกับนักแสดงและผู้กำกับรุ่นใหญ่ “อาเปี๊ยก-พิศาล อัครเศรณี” ที่จากไปอย่างกระทันหัน ด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ถือได้ว่าเป็นภัยเงียบที่ร้ายแรง ไม่แสดงอาการให้เห็นในระยะเริ่มแรก หรืออาจจะเป็นแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่บ่งบอกถึงสัญญาณของโรคหัวใจ

เว็บไซต์ Reader’s Digest ได้สรุป 7 สัญญาณเตือนเกี่ยวกับอาการ “หัวใจวาย” หากพบว่ามีอาการดังกล่าว ควรรีบทำการรักษาหรือพบแพทย์ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

7 สัญญาณเตือน “หัวใจวาย” มีอะไรบ้าง?

1. มีอาการอ่อนเพลียมาก : ผู้ที่มีอาการหัวใจวายจะมีอาการเหนื่อยจนไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันของตัวเองได้ เพราะเมื่ออาการหัวใจวาย ระบบไหลเวียนเลือดจะลดลง ส่งผลให้เกิดภาวะตึงเครียดในกล้ามเนื้อ ซึ่งจะทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียได้ ฉะนั้น หากเกิดอาการอ่อยเพลียให้รีบไปพบแพทย์โดยทันที

2. มีอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง บริเวณหลัง แขน หน้าอก : อาการเจ็บปวดเป็นสัญญาณเงียบของหัวใจวาย เมื่อเซลล์กล้ามเนื้อเริ่มขาดออกซิเจนจะส่งผลให้เกิดอาการเจ็บปวด ซึ่งเมื่อเกิดอาการหัวใจวาย หลอดเลือดหัวใจจะถูกปิดกั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ออกซิเจนในเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อ อาการนี้จะส่งสัญญาณไปยังสมอง
สมองจะเกิดอาการสับสน ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่บริเวณอื่น ๆ

3. หายใจถี่ : หากมีอาการหายใจถี่ อาจจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า คุณกำลังเผชิญกับโรคหัวใจ เพราะหัวใจนั้นมีส่วนสำคัญในการลำเลียงออกซิเจนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และช่วยขจัดคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งถ้าหากหัวใจเกิดทำงานผิดปกติก็อาจจะทำให้คุณหายใจถี่ได้

4. แสบร้อนกลางอก : อาการแสบร้อนกลางอกไม่ได้เป็นแค่เพียงอาการของโรคกรดไหลย้อนเท่านั้น เพราะอาการดังกล่าวส่งผลทำให้คุณไม่สามารถทำอะไรได้ อาจจะเป็นเพราะสาเหตุของโรคหัวใจ เพราะโรคหลอดเลือดหัวใจตีบสามารถทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอกได้ ดังนั้น ควรรีบพบแพทย์ทันที

5. คลื่นไส้ อาเจียน ลำไส้ปั่นป่วน : อาการคลื่นไส้ อาเจียน หรืออาการลำไส้ปั่นป่วน เป็นสัญญาณเตือนภาวะหัวใจล้มเหลว ดังนั้นหากพบว่าร่างกายไปต่อไม่ไหว อย่าฝืน! รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยด่วน

6. อึดอัดบริเวณคอ และขากรรไกร : อาการอึดอัดเหล่านี้มักจะพบกับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจอย่างหนึ่ง โดยสาเหตุนั้นเกิดจากการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกาย เช่น โรคหัวใจ ซึ่งจะส่งผลต่อประสาทความรู้สึก แต่อาการเหล่านี้เกิดขึ้นได้น้อยกว่าอาการเจ็บหน้าอก หากมีอาการดังกล่าว ควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด

7. มีอาการบางอย่างผิดปกติ : ผู้ป่วยที่มีอาการบางอย่างผิดปกติไปจากเดิม ถือเป็นสัญญาณเงียบที่ไม่ควรละเลย แม้ว่าผลที่ออกมาอาจไม่ใช่อย่างที่คิด แต่การเชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง อาจทำให้คุณปลอดภัยจากอาการหัวใจวายรุนแรงได้

บุคคลเสี่ยงต่อการเกิด “หัวใจวาย”

บุคคลเสี่ยงต่อการเกิด “หัวใจวาย” ไม่เพียงแต่ผู้ที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว เพราะทุก ๆ คนสามารถเกิดอาการหัวใจวายได้

1. ผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง ชอบกินอาหารมันๆ
2. ผู้ที่สูบบุหรี่จัด
3. ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง
4. ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน
5. คนอ้วน ไม่มีเวลาออกกำลังกาย
6. เครียดง่าย เครียดบ่อย
7. คนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหัวใจ

ดังนั้น “หัวใจวาย” ถือเป็นภัยเงียบที่อันตรายต่อร่างกายและชีวิตของเราอย่างมาก จึงไม่ใช่เรื่องที่ควรจะละเลย หากเรารู้ตัวและรีบทำการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยทำให้อาการดังกล่าวทุเลาลงได้ ฉะนั้น สุขภาพของทุกคนสำคัญที่สุด อย่าลืมใส่สุขภาพของตัวเองเสมอ ดูแลและรักษาสุขภาพให้แข็งแรงไปเรื่อย ๆ น่าจะดีที่สุด ดังคำกล่าวที่ว่า “การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริญ”

ขอขอบคุณ : ข้อมูลจาก เว็บไซต์ Reader’s Digest

kinyupen