เรามีนิสัย “ผัดวันประกันพรุ่ง” หรือไม่? เลิกดีกว่าไหม เพื่อชีวิตที่ดีกว่า

0
779
kinyupen

ลองสำรวจตัวเองดูกันหน่อยว่า เรามีพฤติกรรม “ผัดวันประกันพรุ่ง” หรือไม่? มาลองดูวิธีที่อาจจะช่วยให้เลิกนิสัยผัดวันประกันพรุ่งกันดีกว่า ว่าต้องเริ่มทำอะไรบ้าง อย่างน้อยก็เพื่อให้การใช้ชีวิตของเราเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น

 

กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต ขอนำทุกท่านไปดูเรื่องราวของการใช้ชีวิตที่เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเป็น ลองถามตัวเองดูว่า คุณเคยไหม? คิดว่าตัวเองมีเวลาเหลือเฟือในการทำสิ่งต่างๆให้เสร็จ คือแทนที่จะทำซะเดี๋ยวนี้เลย ก็ขอเลื่อนออกไปก่อน และท้ายที่สุดกลับต้องมานั่งทำงานภายใต้แรงกดดัน เพื่อให้เสร็จทันภายในเวลาที่เหลือน้อยนิด หากคุณเคยมีพฤติกรรมแบบนี้ แล้วในปัจจุบันยังทำเช่นนี้อยู่ คุณก็คือคนที่ชอบ “ผัดวันประกันพรุ่ง” นั่นเอง

 

แท้จริงแล้ว การผัดวันประกันพรุ่ง เป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่เป็นการเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่ที่น่าประหลาดสุดคือ คนเรามีแนวโน้มสูงที่จะผัดวันประกันพรุ่งในเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับตัวเอง และมีบ่อยครั้งซึ่งเป็นเรื่องที่ตัวเองอยากทำมาก เพราะรู้ว่ามันจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายหลักในชีวิตได้ แต่ก็ยังเลื่อน จนกระทั่งเลือน และลืมไปในที่สุด

 

เชื่อว่ามีหลายคนอาจผัดวันประกันพรุ่ง จนกลายเป็นนิสัยที่ไม่ดี และมักบอกตัวเองว่า วันนี้ไม่อยากทำงานอย่างนี้ เอาไว้วันหลังค่อยทำก็ได้ นี่ล่ะเท่ากับว่าคุณกำลังหลอกตัวเอง เพราะมันไม่ได้ช่วยให้หลุดพ้นจากความจริงที่ว่า ต้องทำงานนั้นให้เสร็จ แต่มันยิ่งจะทำให้เครียดหนักกว่าเดิม เพราะบางครั้งมีงานรออยู่อีกเพียบที่ต้องทำให้เสร็จ และบางทีก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่า จะมีอุปสรรคอะไรเกิดขึ้นบ้างที่ทำให้งานไม่เสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด

 

จากการศึกษาพบว่า มีหลายเหตุผลที่ทำให้คนชอบผัดวันประกันพรุ่ง บางคนทำเมื่ออยู่ในสถานการณ์บางอย่าง แต่อีกหลาย ๆ คนทำจนเป็นนิสัยเลยก็ว่าได้ มาดูกันดีกว่าว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนเป็นโรคชอบผัดวันประกันพรุ่ง

 

  1. ไม่มีวินัยในการทำงาน : คนพวกนี้ผัดวันประกันพรุ่งในทุก ๆ เรื่อง ชอบทำอะไรแบบไฟลนก้น เมื่อพูดถึงเรื่องความเครียด เขาหรือหล่อนจะมีคำตอบว่า “ฉันทำงานได้ดีที่สุดเมื่อถูกกดดัน” ความจริงแล้ว พวกนี้เป็นคนไม่มีระเบียบวินัย ไม่รู้วิธีจัดลำดับความสำคัญของงานที่ต้องทำก่อนหลัง จะรอจนนาทีสุดท้าย จึงเริ่มต้นทำ

 

  1. กลัวทำไม่สำเร็จ : เมื่อไม่รู้วิธีทำงาน จึงไม่ทำเสียเลย หรือรู้สึกว่าการจะทำงานนั้นให้สำเร็จได้ ต้องใช้เวลาเรียนรู้นาน และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเสร็จ จึงเลื่อนออกไปก่อน

 

  1. ทุกอย่างต้องไร้ที่ติ : คนที่ทำอะไรต้องเพอร์เฟกต์ทุกอย่าง พวกนี้ต้องการทำทุกอย่างให้ออกมาดีเลิศ ไร้ที่ติ ซึ่งมิใช่ว่าจะทำไม่ได้ แต่ยากที่จะทำให้สำเร็จได้ภายในเวลาที่กำหนด คนประเภทนี้เมื่อเริ่มต้นทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว ก็จะเลื่อนไปเรื่อยๆไม่ทำให้เสร็จ โดยอ้างว่าเพื่อให้งานได้มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม มาตรฐานของคนพวกนี้มักไม่เป็นที่ยอมรับของคนอื่นๆ ทำให้คนเจ้าระเบียบทั้งหลาย ต้องเสียเวลาไปกับเรื่องที่ไม่จำเป็น

 

  1. ต้องทำงานที่ไม่ชอบ : งานบางอย่างที่ไม่ชอบ แต่ก็ต้องทำ เช่น จัดแฟ้มเอกสาร เขียนรายงาน ดังนั้น จึงเลื่อนไปเรื่อยๆ โดยหวังว่ามันจะหายไปเอง แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะเมื่อไม่เริ่มต้นทำเสียที งานที่คุณไม่ชอบเหล่านี้ ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จน ถึงจุดหนึ่งที่ต้องลงมือทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงตอนนั้นก็อาจทำให้ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้น

 

ดังนั้น ถ้าเราต้องการรู้วิธีเลิกนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง สิ่งสำคัญคือ ต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า ทำไมถึงทำเช่นนั้น ทำไมถึงชอบเลื่อน เป็นเพราะขาดแรงจูงใจ หรือเป็นเพราะเบื่อที่จะทำ หรือว่าไม่มีเวลาพอที่จะทำ หรือขาดสมาธิในการทำงาน เมื่อคุณได้คำตอบที่แท้จริงว่าอะไรทำให้เราชอบผัดวันประกันพรุ่ง ต้องเริ่มจัดการแก้ที่สาเหตุเสียก่อน คราวนี้มาลองดูวิธีที่อาจจะช่วยให้เราเลิกนิสัยผัดวันประกันพรุ่งกันดีกว่า ว่าต้องทำอะไรบ้าง กับ 5 วิธีบอกลานิสัยผัดวันประกันพรุ่ง

 

  1. วางแผนการทำงาน : หากคุณมีนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง เนื่องจากไม่มีเวลาทำทุกสิ่งทุกอย่าง ลองจัดตารางเวลาของงานที่ต้องทำ ลิสต์งานที่ต้องทำทุกชิ้นลงกระดาษ เพื่อกระตุ้นว่าต้องทำให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด การจัดตารางเวลาจะช่วยให้รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง และเมื่อทำงานชิ้นใดเสร็จ ให้ใส่เครื่องหมาย x ไว้ วิธีนี้จะทำให้มีกำลังใจที่จะกา x บนงานที่เหลือให้หมด ภายในเส้นตายด้วย

 

  1. แบ่งงานชิ้นใหญ่เป็นชิ้นย่อยๆ : เหตุผลหนึ่งที่คุณขอผัดไว้ก่อน ก็คือ แค่คิดว่ามีงานชิ้นใหญ่ที่ต้องทำ ก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว แต่หากซอยงานนั้นให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ก็จะทำเสร็จได้ง่ายขึ้น และนั่นคือวิธีเริ่มต้นหยุดการผัดวันประกันพรุ่งที่ดี

 

  1. ให้รางวัลตัวเอง : จงให้รางวัลตัวเองทุกครั้งที่ทำงานเสร็จในเวลาที่กำหนด เช่น ไปเดินดูของกับเพื่อน ๆ เมื่อทำงานเสร็จ วิธีนี้จะช่วยให้มีแรงจูงใจที่จะทำงานทั้งหมดให้เสร็จตามกำหนด

 

  1. คิดในแง่บวก : หลายครั้งที่คุณไม่อยากเริ่มทำงาน เพราะมัวแต่คิดในแง่ร้ายว่างานนั้นยาก หรือทำได้ไม่ดี หรือน่าเบื่อ เมื่อไม่แน่ใจว่าตัวเองจะทำงานนั้นได้ ก็มักจะลงเอยที่การเลื่อนออกไป ดังนั้น ควรบอกกับตัวเองว่า คุณสามารถทำได้ อย่าบอกตัวเองว่า คุณเป็นคนชอบผัดผ่อน แต่จงบอกว่า คุณเป็นคนทำงานสำเร็จได้ ข้อสำคัญคือต้องเปลี่ยนวิธีมองตัวเองและงานที่อยู่ในมือ และฝึกการคิดในแง่บวกให้มาก ๆ

 

  1. ลงมือทำเดี๋ยวนี้ : อย่าทิ้งตารางการทำงานของคุณไว้บนโต๊ะเฉย ๆ ลงมือทำทันที และต้องทำอย่างมีสมาธิ ลองให้เวลาตัวเองสัก 5-10 นาที แล้วคุณจะเชื่อว่า ตัวเองสามารถทำงานให้สำเร็จได้จริง ๆ

 

บอกได้เลยว่า การบอกลานิสัยผัดวันประกันพรุ่ง ไม่ยากอย่างที่คิดเลย และเป็นสิ่งที่ควรจะทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะทำให้คุณคลายเครียดในการทำงานแล้ว ยังช่วยให้มีความสุขในชีวิตมากขึ้นอีกด้วย ใครที่ยังมีพฤติกรรมการผัดวันประกันพรุ่งอยู่ เปลี่ยนพฤติกรรมนี้ซะ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และนี่คือวิถีแห่ง กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิต

kinyupen