พฤติกรรมเสี่ยง! ยุค 4.0 ของแต่ละ Gen

0
965
kinyupen

โลกอินเทอร์เน็ตทุกวันนี้ แทบไม่ต่างจากชีวิตจริง ที่เต็มไปด้วยความไม่ปลอดภัย จากมิจฉาชีพที่เข้ามาในรูปแบบต่าง ๆ เราจำต้องเรียนรู้ให้เท่าทันความเสี่ยงรูปแบบใหม่ๆ อันเกิดขึ้นตามวิวัฒนาการของเทคโนโลยี เพื่อเตรียมรับมือกับอันตรายมองไม่เห็นเหล่านี้ กินอยู่เป็น 360 องศาของการใช้ชีวิต มีผลสำรวจน่าสนใจของ สพธอ. | ETDA เกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝากกัน

การแบ่งกลุ่มคนตามหลักสากลในปัจจุบันนั้น แบ่งออกเป็น 8 Generation แต่ Generation ที่โดดเด่นและเป็นกลุ่มเป้าหมายของบรรดานักการตลาดทั้งหมาย คือ GEN Z , GEN Y และ Baby Boomer กลุ่มคนประเภทนี้มีพฤติกรรมท่องออนไลน์แตกต่างกันออกไป ความเสี่ยงที่จะถูกมิจฉาชีพบนโลกอินเทอร์เน็ตลวงลับนำข้อมูลไปใช้ในทางมิชอบก็ย่อมแตกต่างกันไปด้วย

 

เมื่อความลับไม่ใช่ความลับ…อีกต่อไป

เริ่มกันด้วย Gen Z คือ กลุ่มคนที่เกิดระหว่าง พ.ศ. 2538 – 2552 เป็นช่วงวัยกำลังจะก้าวสู่วัยทำงาน เข้าถึงโลกออนไลน์ ข้อมูลข่าวสารระดับสูงอย่างมาก เพราะโตมาในยุคที่อินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยีออนไลน์กำลังเฟื่องฟู มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่คนกลุ่มนี้ชอบใช้เวลาว่างเล่นอินเทอร์เน็ตเพื่อความบันเทิง ซึ่งกิจกรรมยอดฮิตของคนกลุ่มนี้ ได้แก่ การเล่นโซเซียลมีเดียเช่น Facebook, Twitter, Instagram ,Youtube

แม้จะเป็นกลุ่มคนที่เข้าถึงโลกออนไลน์และข้อมูลข่าวสารในระดับสูง แต่กระนั้นก็ยังมีความเสี่ยงต่อการโดนขโมยข้อมูล จากพฤติกรรมดังต่อไปนี้

1.กรอกวันเดือนปีเกิดแท้จริง โดยตั้งค่าเป็นสาธารณะผ่านโลกออนไลน์ พฤติกรรมนี้เสี่ยงต่อการให้ผู้ไม่หวังดีนำข้อมูลไปใช้หาผลประโยชน์

2.ไม่เปลี่ยน Password หรือ รหัสผ่าน ในคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือทุก ๆ 3 เดือน เหมือนเป็นการเปิดช่องโหว่ให้ผู้ไม่หวังดีเข้าถึงอุปกรณ์และข้อมูลส่วนบุคคลได้

3.เปิดอีเมลของคนไม่รู้จักหรือคลิกลิงก์ที่ไม่รู้จัก อาจเปิดช่องทางให้ผู้ไม่หวังดีเข้าขโมยข้อมูลส่วนตัวทางออนไลน์ของเจ้าของข้อมูลได้

ก็เป็นคนเปิดเผย…ทำอะไรโลกต้องรู้

ตามติดกันด้วย GEN Y เจเนอเรชั่นนี้ ค่อนข้างคุ้นหูเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นช่วงวัยของคนรุ่นใหม่นั่นเอง โดยคน GEN Y คือ กลุ่มคนที่เกิดระหว่าง พ.ศ.2524-2543 ซึ่งเป็นช่วงที่วิวัฒนาการด้านเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต อุปกรณ์ไอที ข้อมูลข่าวสารต่างๆ เข้าถึงได้ง่าย เพียงแค่มีสมาร์ทโฟน โน๊ตบุ๊ค คอมพิวเตอร์ ฯลฯ เท่านั้น ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้มีความสามารถในการนำโลกออนไลน์เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ทั้งการทำงาน ติดต่อสื่อสาร โดยกิจกรรมยอดนิยมของกลุ่มคนเหล่านี้ ไม่พ้นการเล่นโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Twitter, Instagram เป็นต้น

ความฉลาดในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารบนโลกออนไลน์ของคนกลุ่มนี้แม้จะมีมาก แต่ก็ยังถือมีความเสี่ยงต่อการโดนขโมยไม่ต่างกัน จากพฤติกรรมดังต่อไปนี้

1.อัพรูปถ่าย หรือ วิดีโอ ขณะถ่ายเสร็จผ่านสื่อสังคมออนไลน์ทันที โดยตั้งค่าเป็นสาธารณะพฤติกรรมเสี่ยงต่อการทำให้ผู้ที่ไม่หวังสามารถทราบความเคลื่อนไหวได้ทันที ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตราย กรณีที่มีผู้ไม่หวังดีต่อเจ้าของข้อมูล

2.บอกรหัสผ่านในการเข้าใช้งานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์ให้กับเพื่อนสนิทหรือคนรู้ใจ เสี่ยงต่อการถูกขโมยส่วนตัว และนำข้อมูลไปทำธุรกรรมทางด้านการเงินโดยไม่รู้ตัว

3.แชร์ตำแหน่งที่ใช้งานแบบ Realtime ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมทั้งตั้งค่าเป็นสาธารณะ ทำให้ผู้ไม่หวังดีทราบความเคลื่อนไหวของเจ้าของข้อมูลอย่าง Realtime ว่าขณะนี้อยู่ไหน ทำอะไร เสี่ยงต่อการเกิดเหตุอันตรายได้

 

แต่ตัดใจไม่ลง และลบไม่ทัน เท่ากับการเปิดช่องโหว่

ปิดท้ายกันด้วย Baby Boomer กลุ่มคนที่เกิดระหว่าง พ.ศ.2489 – 2507 เป็นเจเนอเรชั่นที่เกิดในช่วงที่เทคโนโลยียังไม่ทันสมัยมากเท่าไหร่นัก ทำให้มีพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมข้อมูลมากที่สุด กิจกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตยอดนิยมของคนกลุ่มนี้ คือ เล่นโซเชียลมีเดีย ไม่ต่างจากกลุ่มอื่นเช่นกัน โดยพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลของ Baby Boomer มีดังต่อไปนี้

1.เข้าเว็บไซต์ธนาคารเพื่อทำธุรกรรม แต่ไม่สังเกตเครื่องหมายความปลอดภัยว่า https:// ถือเป็นพฤติกรรมที่จะทำให้เจ้าของข้อมูลเข้าสู่เว็บไซต์ธนาคารปลอม ที่มีหน้าตาเหมือนเว็บจริงเสี่ยงถูกโจรกรรมข้อมูลและขโมยเงินจากบัญชี

2.เมื่อใช้งานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ของผู้อื่นไม่ลบประวัติการใช้หรือรหัสผ่าน พฤติกรรมนี้เสี่ยงถูกกลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้าสู่ข้อมูลหรือขโมยตัวตน ไปทำเรื่องไม่ดีได้

3.ไม่ตั้งค่าล็อกหน้าจออุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ไม่หวังดีเข้าถึงอุปกรณ์ขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลได้

พฤติกรรมเสี่ยงต่อการขโมยข้อมูลส่วนตัวดังกล่าวบนโลกออนไลน์นี้ หากลองสังเกตกันให้ดีไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคน  Generation ใดก็ตาม ต่างมีแนวโน้มถูกขโมยข้อมูลด้วยกันทั้งสิ้น เพื่อเป็นการระมัดระวังเรื่องนี้ “เราควรรู้เท่าทัน ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป” นี่แหละวิถีกินอยู่เป็น 360 องศาของการใช้ชีวิต

kinyupen